ร้านอาหารเดลิเวอรี่ควรเลือกกล่องใส่อาหารแบบไหนดี

หนึ่งในคำถาม สำหรับเจ้าของร้านอาหารหลายๆร้าน ที่ใส่ใจในสุขภาพ และความปลอดภัย ของลูกค้า คือการเลือกบรรจุภัณฑ์หรือกล่องใส่อาหาร สำหรับลูกค้าที่ซื้อกลับบ้าน หรือสั่งอาหาร Delivery ซึ่งบรรจุภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยงเลยคือ ภาชนะจากโฟม เพราะไม่ได้ผลิตมาเพื่อใช้บรรจุอาหารโดยเฉพาะ รวมถึงทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย

ส่วนบรรจุภัณฑ์หรือกล่องใส่อาหารที่แนะนำ จะเป็น กล่องอาหารที่ผลิตจากพลาสติก PP  เพราะมีความทนทาน และมีมาตรฐาน โดยสังเกตุที่กล่องจะมีสัญลักษณ์ สามเหลี่ยม และมีเลข 5

ถ้าค้นหาข้อมูลตามเว็บบอร์ด เช่น Pantip ก็จะมีสอบถามถึง กล่องพลาสติก/กล่องกระดาษใส่อาหาร ที่ตามร้านอาหารต่างๆใช้กัน

กระทู้ : อาหารตามสั่งใส่กล่องพลาสติกใสปลอดภัยจริงหรือ?

กระทู้ : ถ้าจะมีร้านอาหารตามสั่งที่สั่งใส่กล่องแพงกว่าร้านอื่น 5 บาทเพราะ “ใช้บรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติ”?

กระทู้ : กล่องใส่อาหารเจ ใช้เป็นกล่องกระดาษหรือพลาสติกดีกว่า ?

กระทู้ : ประเภทกล่องข้าว(โฟม/ชานอ้อย/พลาสติก) มีผลต่อการตัดสินใจซื้อไหมครับ

โดยสิ่งที่ใช้เป็นปัจจัยในการเลือกกล่องใส่อาหารนั้น มักจะนิยมเลือก

เลือกกล่องใส่อาหาร โดยเลือกประเภทที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้

เพราะบางครั้งลูกค้าที่สั่งอาหารไปอาจจะยังไม่ได้ทานในทันที ทำให้ต้องอาศัยไมโครเวฟในการอุ่นอาหารให้ร้อน ซึ่งปัจจุบันนี้ ไมโครเวฟ แทบจะเป็นของใช้สำคัญในครัวไปแล้ว เพราะสะดวกสบาย ใช้งานง่าย

การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่จะนำไปเข้าไมโครเวฟเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเลือกไม่เหมาะสม อาจจะทำให้อาหารมีการปนเปื้อนสารบางอย่างได้ ซึ่งในปัจจุบัน พลาสติกที่มีความทนต่อความร้อนและสามารถเข้าไมโครเวฟได้ คือ

• พลาสติกประเภท พอลิเอทิลีนเทอเรฟทาเลต Polyethylene terephthalate ( PET )
• พลาสติกประเภท พอลิพรอพิลีน Polypropylene (PP)

กล่องพลาสติก ประเภทที่เหมาะกับใส่อาหาร จะเป็นพลาสติก Polypropylene (PP)  ซึ่งสังเกตุได้จาก สัญลักษณ์สามเหลี่ยม มีเลข 5 และตัวอักษร PP ส่วนพลาสติกอื่นๆที่พอจะเข้าไมโครเวฟได้ คือ พลาสติก ที่มีสัญลักษณ์สามเหลี่ยม มีเลข 1,2,4 แต่อาจจะใช้ความร้อนแค่พออุ่นเท่านั้น หรือสังเกตุข้อความ ” Microwave Safe ” หรือสัญลักษณ์ที่เป็นรูปคล้ายตู้ไมโครเวฟที่ใต้กล่อง

การเลือกกล่องใส่อาหาร ให้เข้ากับประเภทอาหาร

กล่องใส่อาหาร 1 ช่อง พร้อมฝา

เหมาะสำหรับอาหารจานเดียว เช่น ข้าวผัด ข้าวไข่เจี้ยว หรืออาหารต่างๆที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำเยอะ

หรือถ้ามีส่วนผสมของน้ำที่สามารถแยกได้ เช่น ข้าวหมูแดง ข้าวขาหมู ก็สามารถใช้กล่องแบบนี้ได้ ส่วนน้ำอาจจะแยกใส่ถุง หรือถ้วยขนาดเล็ก

กล่องใส่อาหาร 2-5 ช่อง พร้อมฝา

เหมาะสำหรับอาหารที่มีกับหลายอย่าง หรือมีเครื่องเคียง เช่น อาหารญี่ปุ่น เพื่อไม่ให้อาหารปะปนกัน จนทำให้รสชาติเปลี่ยนไปได้ หรือแยกเพื่อให้ดูสวยงามน่ารับประทาน

กล่องใส่อาหารทรงกลม พร้อมฝา

เหมาะสำหรับอาหารที่มีกับ 2-3 อย่าง และไม่มีส่วนผสมของน้ำ มักจะใช้กับ กล่องอาหารญี่ปุ่น

ถาดใส่อาหารแบบยาว พร้อมฝา

เหมาะสำหรับอาหารที่ต้องมีการจัดเรียงสวยงาม เป็นชิ้นๆ เช่น เกี๋ยวซ่า , ซูชิ , สลัดโรล เป็นต้น

 

 

 

---

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

กรมวิทยาศาสตร์และการแพทย์